ฟองสนาน จามรจันทร์
"ช่วงนี้ตั้งแต่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ไปจนถึง 5 เมษายน พ.ศ. 2555 ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพราะว่าพฤหัสฯ กับพระเสาร์จะเล็งกัน โดยพฤหัสฯ จะอยู่ในราศีเมษ ซึ่งเป็นที่ตั้งของดวงโลกและดวงเมืองไทย และพระเสาร์อยู่ที่ราศีตุล ภพที่ 7 ของดวงโลกกับดวงเมือง นี่คือสัญญาณที่บอกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นับเป็นครั้งที่ 4 แห่งประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์ ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปชนิดที่ใครก็คิดไม่ถึง เราไม่รู้ว่าวิวัฒนาการตั้งแต่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554 จะเป็นไปในลักษณะใด แต่จะมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วไปผลัวะประมาณ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555 พี่เชื่อว่าประเทศไทยจะเปลี่ยนยุคสมัยไปอีกยุคหนึ่ง ที่เราอาจหันกลับไปดูแล้วมองว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร รวมถึงดวงโลกด้วย"
นางฟองสนาน จามรจันทร์ โดยคนในแวดวงข่าวต่างเรียกขานว่า "พี่ฟอง" เป็นนักจัดรายการวิทยุของกรมประชาสัมพันธ์ รายการหมุนตามวัน F.M. 92.5 สังกัดสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) และยังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ประจำจังหวัดหนองบัวลำภู แต่ในฐานะโหรสมัครเล่น ฟองสนานเป็นคนแรกที่กล้าทำนายว่า ประเทศไทยจะมีเพศอิสตรีขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะพลาดไปสำหรับชื่อผู้เข้าชิงตำแหน่งนารีขี่ม้าขาว ทว่าความจริงที่ผู้หญิงได้ก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุดทางการเมือง มิได้เพี้ยนไปจากที่เธอทำนายไว้ล่วงหน้าแม้แต่น้อยณ วันนี้ที่สังคมเกือบค่อนโลกตั้งข้อกังขาถึงเหตุการณ์วันดับสูญในปี พ.ศ. 2555 หรือ ค.ศ. 2012 เธอในฐานะโหรสมัครเล่นที่ศึกษาตำราด้วยตัวเองมากกว่า 100 เล่ม จะมีคำอธิบายในเรื่องนี้อย่างไร เชิญมาฟังกัน!!
คำถามแรกที่คนกังวลคือ โลกจะแตกหรือไม่ หลายคนเชื่อเพราะเป็นเรื่องปฏิทินมายาที่สิ้นสุด 21 ธ.ค. 2555 แล้วคนก็มาตีความต่างๆ นานาว่าโลกจะแตกหรือไม่ มันก็มีตีความได้สองแง่ พวกหนึ่งสุดกู่ก็บอกว่าโลกจะแตก ทีนี้ถ้าถามพี่ฟองในฐานะชาวพุทธ นับถือพระพุทธศาสนา พระสมณโคดมหรือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ต้องอยู่ไปอีก 2,000 กว่าปีนะ คือเราชาวพุทธถ้าเราศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จริงๆ เราก็ต้องมีศรัทธาว่า ศาสนาพระสมณโคดมเนี่ย จะต้องอยู่ไปหลังจากพระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพานไปแล้ว 5,000 ปี ตอนนี้ผ่านไป 2,554 ปี เหลือ 2,446 ปี
เราต้องตั้งสติว่า ที่บอกว่าจะโลกจะแตกคือไม่มีโลกใช่หรือไม่ มันเป็นไปไม่ได้ บางคนบอกว่าอุกกาบาตจะพุ่งชนโลก บางคนก็บอกว่าพายุสุริยะที่จะทำให้เกิดปัญหาถึงขั้นโลกแตก คือพี่ไม่เชื่อ เพราะศาสนาพุทธของเราจะยังคงอยู่อีกนาน แล้วภัทรกัปนอกจากพระพุทธเจ้าเป็นองค์ที่ 4 ยังเหลือพระศรีอาริยเมตตรัยอีกองค์หนึ่งที่ยังไม่ได้ลงมาเลย แล้วมันจะแตกไปอย่างไร นี่คือคำตอบในทางปฏิทินมายานะ
ส่วนในทางโหร มันมีแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในโลก รวมถึงประเทศไทยของเรา มันมีแนวโน้มมานานแล้วว่ามันถึงยุคการเปลี่ยนแปลงใหญ่ เริ่มที่ประเทศไทยที่สัมผัสได้จากการศึกษาทางโหรไทย และเหลือบตาดูโหราศาสตร์ฝรั่งเหมือนกัน มันมีดาวดวงหนึ่งที่บ่งบอกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในโลก เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของโลกและของคนไทย เพราะดวงของโลกและดวงเมืองไทยซึ่งก็คือกรุงเทพมหานคร สถิตลัคนาราศีเมษเหมือนกัน แต่รายละเอียดแตกต่างกันเท่านั้นเอง
การเปลี่ยนแปลงเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2548 มาแล้ว สัญญาณบ่งบอกปีนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชนะการเลือกตั้งมาได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากครั้งแรกในประเทศไทย เห็นมั้ยว่าแนวโน้มมาตั้งแต่ครั้งนั้น เพราะพลูโตมันเข้าภพที่ 9 ของดวงเมืองและดวงโลก ที่นั่นมีเรื่องกฎหมายอันมีตัวแทนเป็นดาวพฤหัสบดี มีเรื่องรัฐบาลอันมีตัวแทนเป็นพระเสาร์อยู่ และไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย แต่ระดับโลกก็เปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความคิดทางการเมืองที่เปลี่ยนไปจากเดิม หรือแม้แต่เอเชียเทิร์น โลกจะหมุนมาทางเอเชียแล้วนะ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่เร็วพรวดพราด แต่มันจะเป็นในแบบมีวิวัฒนาการ
ทว่า การเปลี่ยนแปลงแต่ละอย่างที่เกี่ยวข้องกับทั้งโลกและประเทศไทย กว่าจะลงตัวมันต้องเขย่า เหมือนกับการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ สักอย่าง ช่วงของการเปลี่ยนแปลงมันต้องเขย่า ต้องใช้เวลา และต้องดูดาวดวงอื่นประกอบ ถ้าพูดถึงดาวของการเปลี่ยนแปลงในเชิงโหราศาสตร์ จะมีดาวอยู่สองดวงที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ทั้งของโลกและกรุงเทพฯ ก็จะมีดาวพฤหัสบดีดาวด้านดี และพระเสาร์ดาวด้านร้ายหรือดาวโทษทุกข์
ในอดีตที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงใหญ่หลังจากที่มีการตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ มันจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ มาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกสมัย ร.5 ดาวพฤหัสบดีดาวดีเทพเทวาประจำดวงเมือง ถอยกรูดจากราศีกันย์เข้าไปสถิตที่ราศีกรกฎ ซึ่งเป็นภพที่ 4 ดวงเมือง เล็งกับพระเสาร์ ซึ่งเป็นดาวโทษทุกข์ซึ่งอยู่ในราศีมังกร และดาวสองขั้วทำมุมเล็งกัน ปรากฏว่าเหตุการณ์ครั้งนี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ของประเทศเรา คือ เราเสียดินแดน เราจำแขนขาด เสียดินแดนเพื่อที่รักษาอธิปไตยของชาติ
แล้วเป็นเพราะว่าดวงกรุงรัตนโกสินทร์หรือดวงกรุงเทพฯ หรือดวงเมืองของพวกเราดวงเดิมที่สถาปนาในยุคพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ลงเสาร์หลักเมืองวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 เวลารุ่งเช้าเก้าบาตร หรือ 6 นาฬิกา 54 นาที เข้มแข็งมาก ถึงแม้จะเปลี่ยนแปลงใหญ่อย่างไร แต่ในเมื่อดวงเดิมเข้มแข็ง เปรียบเหมือนบ้านที่สร้างแล้วเข้มแข็ง ไม่ว่าพายุลมแรงน้ำท่วมแค่ไหน ในที่สุดสามารถกลับมาเป็นดีได้ ฟื้นได้ ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ได้
ขณะที่ผลที่ได้รับหลังจากถูกบีบบังคับจนแขนขาด และถูกบังคับให้เปลี่ยนแปลงประเทศอย่างใหญ่หลวง ร.5 ทรงปฏิรูปทั้งหมด ผลที่สุดนำไปสู่วิวัฒนาการและความก้าวหน้าที่ดีขึ้น นี่คือความหวังที่จะบอกว่า ดาวสองดวงนี้พฤหัสบดีกับเสาร์เล็งกัน มักจะนำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น
ครั้งต่อมาคือ พฤหัสบดีกับเสาร์เล็งกันเหมือนเดิม พฤหัสบดีอยู่ในราศีกรกฎภพที่ 4 ดวงเมือง พระเสาร์อยู่ภพที่ 10 ราศีมังกรดวงเมือง เป็นครั้งที่ 2 พ.ศ. 2475 ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยเปลี่ยนจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็เป็นการถูกบีบให้เปลี่ยนเหมือนกัน แม้ว่าใครจะว่าการเมืองเราไม่ดี แต่พี่ว่ามันดีขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคใหม่ อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลง พ.ศ. 2475 มันมีบันทึกทางโหรของกรมหลวงนรินทรเทวี ซึ่งเป็นพระเจ้าน้องยาเธอของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ว่า ร.1 ทรงทราบมาก่อนว่า ระบอบกษัตริย์จะวัฒนาถาวรไปถึง 150 ปี แล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ซึ่งก็เป็นจริง
และครั้งที่ 3 ที่พฤหัสฯ และพระเสาร์ทำมุมถึงกัน เล็งกัน คือ เดือนเมษายน พ.ศ. 2553 ถึงพฤษภาคม พ.ศ. 2554 จำได้ไหมว่าคืออะไร ก็คือการชุมนุมของเสื้อแดงกลางพระนคร บีบให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลง คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็พยายามที่จะไม่เปลี่ยน แต่ก็ต้องมาเปลี่ยนแปลงด้วยการยุบสภา แล้วนำมาสู่การเลือกตั้งครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ที่มีการเปลี่ยนแปลงคือเราได้นายกฯ ผู้หญิง ทั้งหมดคือการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย
ทีนี้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตอนนี้ แล้วก็สิ่งที่เกิดตามดวงพฤหัสฯ กับพระเสาร์เล็งกัน และพฤหัสบดีอยู่ในราศีมีน พระเสาร์อยู่ราศีกันย์ ราศีมีนนี่ภพวินาศของโลก แล้วราศีกันย์อยู่ที่ภพอริของโลก เมื่อดาวสองดวงนี้เล็งกัน ตำราโลกธาตุจะบอกไว้ว่า จะมีแผ่นดินไหวที่แปลกประหลาด ภูเขาไฟระเบิดที่แปลกประหลาดเกิดขึ้น ปรากฏว่าเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อว่าเกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น จนเกิดสึนามิ และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์รั่ว นี่คืออิทธิฤทธิ์ของพระเสาร์ ของพฤหัสฯ ที่เล็งกัน นับจากนี้ทั้งโลกทั้งประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงใหญ่ในแบบไม่มีใครนึกออก
"ช่วงนี้ตั้งแต่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ไปจนถึง 5 เมษายน พ.ศ. 2555 ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพราะว่าพฤหัสฯ กับพระเสาร์จะเล็งกัน โดยพฤหัสฯ จะอยู่ในราศีเมษ ซึ่งเป็นที่ตั้งของดวงโลกและดวงเมืองไทย และพระเสาร์อยู่ที่ราศีตุล ภพที่ 7 ของดวงโลกกับดวงเมือง นี่คือสัญญาณที่บอกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นับเป็นครั้งที่ 4 แห่งประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์ ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปชนิดที่ใครก็คิดไม่ถึง เราไม่รู้ว่าวิวัฒนาการตั้งแต่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554 จะเป็นไปในลักษณะใด แต่จะมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วไปผลัวะประมาณ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555 พี่เชื่อว่าประเทศไทยจะเปลี่ยนยุคสมัยไปอีกยุคหนึ่ง ที่เราอาจหันกลับไปดูแล้วมองว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร รวมถึงดวงโลกด้วย"
ถ้าหากสังเกตให้ดีจะไปใกล้เคียงกับวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ของปฏิทินมายา ถ้าถามว่าดวงโลกแตกไหม ไม่แตกแต่จะเปลี่ยนแปลงด้านความเป็นอยู่ เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมจากยุคหนึ่งไปสู่อีกยุคหนึ่ง
"ดาวสองดวงนี้ ในระหว่างเปลี่ยนแปลงอาจจะเจ็บปวด แต่ว่าในที่สุดเมื่อเขย่าลงตัวแล้วจะนำไปสู่วิวัฒนาการที่ดีขึ้น นี่คือความหวัง แต่ก่อนจะเปลี่ยนจะเขย่ากันเละเทะ พี่ถึงไม่เชื่อว่าโลกจะแตก แต่เชื่อว่าดวงโลกจะเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม เปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ในแบบที่เราคิดไม่ถึง ตอนนี้ก็เห็นกันอยู่ ความเป็นอยู่ที่พึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น"
ส่วนการเปลี่ยนแปลงของโลกจะเป็นเทิร์นของเอเชียตามที่โหรเก่งกาจ ที่เขียนไว้ในเอ็กซ์ไซท์ ไทยโพสต์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะเริ่มจากกรอบของดาวพลูโต จากวิกฤตการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐ ใครจะเชื่อว่าจะมีแฮมเบอร์เกอร์ดีซีส ใน พ.ศ. 2552 สหรัฐเละ เป็นเรื่องของการเปลี่ยนใหญ่ ตามมาด้วยยุโรป อาหรับสปริง และตามมาด้วยรัสเซีย ก็ยังไม่รู้ว่าปูตินจะเอาอยู่หรือเปล่ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พม่าก็เปลี่ยน เพราะดาวพฤหัสฯ ก็คือพม่า เขาเริ่มเปลี่ยนประเทศ และจะเปลี่ยนไปในแบบที่คิดไม่ถึงอีกเช่นกัน เมืองไทยก็จะเปลี่ยน
"ในช่วงที่เขย่าให้ลงตัว ต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพราะจะเปลี่ยนชนิดที่คนทำใจไม่ได้จะเจ็บปวดและต่อต้าน เกิดการปะทะกัน ระหว่างสิ่งเก่ากับสิ่งใหม่ อีกทั้งตราโลกธาตุบอกไว้ว่า แผ่นดินไหวแปลกประหลาด ภูเขาไฟระเบิดแปลกประหลาด แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดจุดไหนของประเทศไทยหรือของโลก ฉะนั้นในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทุกคนต้องใจเย็น รวมถึงคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีด้วย เพื่อความไม่นองเลือด"
แต่ที่สุด ไม่ว่าจะเขย่าอย่างไร ทั้งภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว และน้ำที่ยังไม่จบ การเมืองเองก็จะเปลี่ยนในแบบที่นึกไม่ถึง แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นเมื่อเขย่ากันเต็มที่แล้ว ประเทศไทยก็จะผ่านพ้นไปได้ เพราะดวงเมืองรัตนโกสินทร์เราเข้มแข็ง และสถาบันก็จะผ่านพ้นไปได้ แต่จะเปลี่ยนไปสู่ในรูปแบบไหนไม่ทราบ ในที่นี้หมายถึงสถาบันต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่สถาบันการเมืองด้วย ตัวบุคคลก็เปลี่ยนในแบบที่ว่าไม่เหลือหน้าตาอะไรให้เห็น ไม่มีเค้าเดิม เช่น กรณีของคุณสุพจน์ ทรัพย์ล้อม หรือแม้แต่คุณแดง-สุรางค์ เปรมปรีด์ ขณะที่ปูตินก็ถูกท้าทาย อย่างไรก็ตามประเทศไทยจะรอดปลอดภัยตราบที่กรุงรัตนโกสินทร์ยังเป็นดวงเมือง แต่ถ้ามีการย้ายดวงเมืองหรือการย้ายเมืองหลวงไปที่อื่นมันก็ไม่แน่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
"ตั้งแต่ 7 ธันวาคมปีนี้ จนถึง 11 ธันวาคมปีหน้า คนที่มีอำนาจจะต้องประคับประคองให้ดี ที่สำคัญคนที่เป็นเป้าหมายหรือสถาบันที่เป็นเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลง จะต้องยอมเปลี่ยนตัวเองด้วย ไม่เช่นนั้นจะต้องเจ็บปวดและถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ทำใจซะ เพราะการเปลี่ยนแปลงมันเป็นนิรันดร์"
ดวงโลกเองก็ต้องระวังมากๆ เรื่องอุบัติเหตุ เหมือนเดิมคือภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหวที่แปลกประหลาด เกิดขึ้นแน่นอน ระหว่าง 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ถึง 5 เมษายน พ.ศ. 2555 แล้วผลของเหตุการณ์จะนำไปสู่การเขย่าอย่างรุนแรงในวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555 จากนั้นจะเปลี่ยนแปลงต่อไปอีก เพราะนี่คือจุดเทิร์นนิงพอยต์อย่างใหญ่ ซึ่งก็ใกล้เคียงกับวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 แสดงว่าคนทำปฏิทินมายา อาจมีความรู้ เพราะว่าวันที่ 11 ธันวาคม และ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 มันใกล้เคียงกัน
ต้องบอกว่าวิชาโหรเนี่ยไม่สามารถระบุรายละเอียด แต่บอกถึงแนวโน้มได้ ส่วนคนที่จะบอกรายละเอียดได้มีแต่ระดับพระยาโหราธิบดีเท่านั้นที่จะบอกได้ แต่ถามว่าวิชาโหรสำคัญหรือไม่ ต้องบอกว่าสำคัญ เพราะถ้าไม่มีวิชานี้จะมีใครรู้หรือไม่ว่าเราจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิง และหลักโหรเขาก็เก็บสถิติมากว่า 6,000 ปีแล้ว
"ดังนั้น จึงขอให้ทุกคนเตรียมตัวไว้ และคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้นในปี พ.ศ. 2558 แต่ระหว่างนั้นไม่ใช่ว่าจะแย่ เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ พ.ศ. 2558 ก็จะป๊อกเลย แล้วคนไทยจะรู้สึกว่ามาถึงจุดนี้ได้ยังไง เปรียบได้กับเมื่อก่อนเราเรียนด้วยกระดานชนวน แต่ตอนนี้เราสามารถเรียนด้วยคอมพิวเตอร์อะไรแบบนี้"
ขอสรุปง่ายๆ 1.คือโลกไม่แตก แต่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ด้านยุคสมัย และวัฒนธรรมความเป็นอยู่ ใกล้เคียงกันระหว่างปฏิทินมายากับหลักโหราศาสตร์ไทย และใครที่เป็นเป้าของการเปลี่ยนแปลงต้องทำใจยอมรับ ไม่เช่นนั้นจะเจ็บปวด ต้องกล้าเปลี่ยน แต่ถึงจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ประเทศไทยก็จะยังปลอดภัยเพราะดวงเมืองแข็ง 2.ภัยธรรมชาติ เป็นอะไรที่ต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง ราหูอยู่ในราศีธาตุน้ำไปจนถึง 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เรื่องน้ำยังไม่จบ และแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สำหรับประเทศไทยไม่มีภูเขาไฟจึงอยากให้ระวังเรื่องไฟ ในที่นี้หมายถึงไฟธรรมชาติและไฟการเมือง 3.เอเชียจะรุ่งสุดยอดในรอบ 20 ปี นับจากปี พ.ศ. 2548-2563
ฝากบอกคนไทยว่าอย่าไปตื่นกลัว การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดาที่มันต้องมีการเปลี่ยนแปลง ขอให้ตั้งสติ พระพุทธเจ้าบอกว่าให้ตั้งสติ ให้มีสติ และดูผลประโยชน์โดยรวมของประเทศชาติ อย่าเอาผลประโยชน์ของตัวเองเป็นตัววัด เพราะไม่อย่างนั้นถึงที่สุดถ้าประเทศชาติอยู่ไม่ได้ เราก็จะอยู่ไม่ได้เช่นกัน ก็ให้คิดว่าเปลี่ยนครั้งนี้แล้วอะไรจะดีที่สุดต่อประเทศชาติ ก็ให้เลือกทางนั้น ขอยืนยันอีกครั้ง ถ้าไปฝืนจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังและตกสมัย
"คำทำนายทั้งหมดที่เปิดเผยขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรมประชาสัมพันธ์แต่อย่างใด แต่เป็นในส่วนของวิชาโหรที่พี่ได้ร่ำเรียนมา".
