มกราคม
บรรยากาศที่น่าแจ่มใสของภาคประชาชนยังมีอยู่ เพราะดาวจันทร์มาทับดาวจันทร์เดิม ดังโศลกโบราณกล่าวไว้ว่า “จันทร์จวบจันทร์เล่า ลุลาภสมบูรณ์ โชคดีมีผู้พลีลาภครามครัน” อย่างน้อยก็ 2-3 วันที่จะได้ฉลองเทศกาลปีใหม่อย่างมีความสุข มีโชคลาภกันเป็นส่วนมาก ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ลาภลอย หรืออาหารการกิน ส่วนรัฐบาล นักการเมือง ก็คงต้องใช้จ่ายเงินกันมันมือเพื่อซื้อใจ ซื้อเสียงไว้ เหล้า-เบียร์จะขายดีมาก ขนาดยกลังกันเลย เรื่องอุบัติเหตุมีแนวโน้มลดลง ถามว่าหนาวไหม ก็คงไม่หนาว แต่มีเรื่องของน้ำเข้ามาเกี่ยวข้อง ทางทิศตะวันออกและทิศเหนือของประเทศ ดาวศุกร์เป็นมหาจักรในราศีธนู เงินทองจะตกอยู่กับผู้ที่มีกิจการเกี่ยวข้องกับการเดินทาง คนต่างชาติ การท่องเที่ยว กิจการต่อเนื่อง อัญมณี เสื้อผ้า แฟชั่น สปา นวดแผนไทย ดารา ศิลปิน ล้วนแล้วแต่มีงาน มีเงิน แต่รายได้ค่าตัวจะลดลงไป
ด้านการเมือง ดาวศุกร์จรทับดาวเสาร์ เรียกว่าอุบาทว์พระยม ที่ถือมาแต่โบราณว่าจะเกิดเหตุร้ายต่อดวงเมือง โดยมีหลักครูยืนยันหลายกรณี “ศุกร์เร่งปรารมภ์ *อุบาทว์พระยม จะย่ำยีอาตมา” หรือ “พระศุกร์มาถึงเสาร์จำเป็น จะได้ลำเค็ญลำบากชีโวตโม จะลดโดยภัยอะโป เกิดวิวาโท มนัสจะทุ่มเถียงกัน” นอกจากนี้ยังทำให้สูญเสียทรัพย์สิน และอาจถึงแก่ชีวิตหากมีโรคเก่ากำเริบ สรุปในด้านการเมืองจะมีการแตกแยก มีอุปสรรค
แต่ในขณะเดียวกัน ดาวศุกร์ก็ทับดาวพฤหัสบดีด้วย ก็ช่วยแก้ปัญหาอุปสรรคนั้นได้ ดังที่กล่าวไว้ว่า “ศุกร์สู่ราศีชีวา ศิริโชคสรรพา สรรพโภชตระการ” *อุบาทว์พระยมนั้นในคัมภีร์อภิไธโพทธิบาทว์กล่าวไว้ว่า หากเกิดวัวควายตายคาเรือนหรือคาแอกไถ ม้าออกลูกที่เดียว 2 ตัว หรืออกลูกแฝด ผีขว้างเรือนหรือได้ยินเสียงผีหัวเราะ เกิดเป็นไข้เรื้อรั้ง นอนฝันร้าย มีมดเรือดไรมากกว่าปกติบนบ้าน นกแสก นกเค้าแมว เหยี่ยว รวมถึงนกที่ผิดวิสัย บินเข้าในบ้านเรือน งูเห่า อสรพิษเข้าบ้าน แร้งจับหลังคาบ้านหรือมาสมจรให้เห็นในเวลากลางวัน
สิ่งเหล่านี้เรียกว่าอุบาทว์พระยม การแก้ไขจะมีบทสวดพร้อมด้วยเครื่องบูชา โดยสรุปการทำมุมของดวงดาวคือดาวเสาร์-พระราหูทำมุม 60 องศาไปยังดาวศุกร์ จะทำให้เกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจการส่งออก-นำเข้าจากต่างประเทศ ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับประเทศต่างๆ มีปัญหา เช่น ประเทศจีน อินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ตลอดทั้งเดือนดาวผู้นำจรมาในเรือนดาว ทำให้เกิดความติดขัด ไม่มีความมั่นคงในการบริหารจัดการ บริวารคนรอบข้างทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตั้งแต่ 6 มกราคมเป็นต้นไป การเมืองและเศรษฐกิจไม่ราบรื่น การค้าธุรกิจซบเซา เป็นการเริ่มต้นยุคข้าวยากหมากแพง ข้าวแกงไม่มีขาย
ด้านภัยธรรมชาติ มีลมพายุแรงโหมหัก เกิดความเสียหายรุนแรงทางตอนเหนือของไทย หลายประเทศในโซนยุโรปจะมีภัยพิบัติ อากาศแปรปรวน ไม่ควรเดินทาง โดยเฉพาะสนามบินจะมีพายุหิมะ ไม่ได้รับความสะดวก หรือมีอันตรายทางอากาศจากการทำมุมขัดแย้ง 90 องศาระหว่างดาวอังคารและดาวมฤตยูในภพวินาศ ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางควรเช็กสภาพอากาศอย่างรอบคอบ
สังคมทั่วไปค่อนข้างสงบ เนื่องจากความซบเซาทางเศรษฐกิจ ประกอบกับการที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนได้ จนประชาชนเกิดความทุกข์และเบื่อหน่ายการเมืองตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว เป็นสัญญาณให้รู้ว่าปัญหาหลักของชาติเกิดจากนักการเมือง
กุมภาพันธ์
ดาวศุกร์โคจรเร็วหรือเสริดสู่ราศีมังกร เรือนของดาวเสาร์ ซึ่งเป็นภพกัมมะ ซึ่งหมายถึงรัฐบาล บุคคลสำคัญของชาติ ชื่อเสียงของประเทศ ซึ่งทำให้เกิดความตกต่ำเนื่องมาจากมาตรฐานของดาวศุกร์เสีย และยังมีที่มาจากภพวินาศอีกด้วย แน่นอนว่าเดือนนี้เกือบทั้งเดือนกระทบต่อการเมืองที่เศรษฐกิจถดถอย หนี้สินสาธารณะของรัฐเพิ่มขึ้น และประชาชนหากินฝืดเคือง นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ลดลง เพราะพิษเศรษฐกิจที่เกิดมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาไม่มีสัญญาณที่ดีขึ้น ตรวจสอบดาวทุกดวงแล้วไม่เห็นแววที่จะทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดีได้
ในรัฐสภาก็อลเวง สภาท้องถิ่นก็ไม่ต่างกัน มีการฟาดฟันกันไม่ลดละ ไม่มีใครผิดใครถูก แต่กลายเป็นไม่มีหลักการ เพราะดาวพุธมนท์ โคจรวิปริต มีมาตรฐานต่ำ และยังเข้ามาอยู่ในเรือนพระราหูที่ราศีกุมภ์ ซึ่งเป็นดาวคู่ศัตรูอีกด้วย ทำให้เห็นว่านักการเมืองบางส่วนไร้ค่า พูดจาโกหก หลอกลวงประชาชน
กลางเดือน ภาพวุ่นวายจากการเรียกร้องให้ขึ้นค่าแรงที่เท่าเทียมกันเป็นประเด็นร้อนระหว่างสามฝ่าย คือ ลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐบาล ในช่วงนี้มีการฟ้องร้องนายจ้างเป็นคดีต่อศาลแรงมากขึ้น เพราะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งในส่วนของอุตสาหกรรมใหญ่น้อย ไล่ไปถึงพวกร้านขายอาหาร แผงลอย หาบเร่ ในขณะที่ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ก็ก่อม็อบเช่นกัน เพราะดาวเสาร์เป็นตัวแทนของผู้ใช้แรงงาน เกษตรกร ส่วนอสังหาริมทรัพย์ที่แห่กันสร้างก็ขายไม่ออก หรือยอมขาดทุน แต่ธนาคารคงไม่ยอมง่ายๆ แรงฤทธิ์ของดาวเสาร์ที่เป็นพินทุบาทว์จึงเป็นเสาร์ที่แรง เพราะบวกด้วยกำลังของพระราหู นำมาซึ่งปัญหายืดเยื้อ ยิ่งแก้ยิ่งเจ็บ ยิ่งแก้ยิ่งจน
ด้านชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนยังเกี่ยวกับภาวะดินฟ้าอากาศ ที่ยังหนาวจัดยังมีอยู่ ที่เจอพายุและน้ำท่วมแบบพลันทางตอนใต้ แผ่นดินไหวทางตอนเหนือก็มีให้เห็นอยู่ไม่ขาดสาย เพราะดาวเสาร์ ดาวศุกร์ ดาวพุธ พระราหู อยู่ในเรือนมุมหักศอกที่ส่งกระแสให้เกิดภัยพิบัติ และไม่ใช่แต่ที่เมืองไทย ประเทศเวียดนาม ไต้หวัน ญี่ปุ่น ก็จะเผชิญกับภัยธรรมชาติรุนแรง ไกลออกไปประเทศแถบยุโรปตอนใต้ก็จะมีสภาพอากาศที่เลวร้าย เกิดคลื่นลมโหมหักทำลายสิ่งปลูกสร้าง มีการระบาดของโรคที่ทำให้มีคนตายไม่น้อย
สภาพสังคมได้รับอิทธิพลจากพระราหูจึงจมอยู่ในความลุ่มหลงมัวเมา ทั้งการดื่มเหล้า ยาเสพติด การพนันบอล และอาจมีความพยายามในการผลักดันหวยออนไลน์ ส่วนหวยใต้ดิน ในปีนี้จะเป็นอาชีพหลักก็ว่าได้ ความหวังของคนส่วนมากจะอยู่ที่การแสวงหาสิ่งที่นำโชค มากกว่าจะหางานสุจริตทำหรือขยันมากขึ้น จึงน่าเป็นห่วงว่าสังคมจะยิ่งเสื่อมโทรมลงไปอีก หากไม่มีการสกัดกั้นหรือหาทางแก้ไข ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย จะโทษใครเพียงด้านเดียวไม่ได้
มีนาคม
เดือนที่ 3 ในปีนักษัตรที่ 4 (ปีมะโรง) ดวงดาวเกาะกลุ่มในสองราศีทำมุมตรีโกณ 120 องศาถึงกันอย่างน่าสนใจ กลุ่มแรกในราศีตุล ธาตุลม มีดาวเสาร์ระห่ำธาตุไฟเป็นมหาอุจร่วมด้วย ดาวราหู ธาตุลม เล็งดวงเมืองเป็นพินทุบาทว์ซ้ำซ้อน ในช่วงวันที่ 1-3 มีนาคม มีดาวจันทร์เข้ามาแซม ก็เป็นไปตามกฎว่า ดาวจันทร์ ธาตุดินผสมน้ำ เมื่อเจอกับเสาร์และราหู ก็จะเป็นวันที่เกิดภัยได้หลายอย่างกับประชาชนทั่วไป เช่น เดือดร้อนเพราะถูกจี้ ปล้น และสภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวน วิปริต มีความเสียหายต่อการเกษตร แผ่นดินเดือด ไฟไหม้ ฟ้าผ่า พายุรุนแรง ภาคอีสานจะพบภัยพิบัติมากกว่าภาคอื่นๆ ทั้งความหนาวที่หลงเหลืออยู่ และการทรุดตัวของชั้นดิน ก่อให้เกิดแนวไหลเลื่อน หรือแผ่นดินไหวและไฟป่า
ด้านการเมืองยังคงมีปัญหาไปเรื่อยตลอดทั้งปี คนในรัฐบาลขัดแย้งกันรุนแรง ไม่ใครก็ใครต้องพ้นตำแหน่งไป ผู้นำมีเรื่องเสียหาย เจ็บป่วยหนัก เพราะได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ด้วยการทำมุมของดาวบาปเคราะห์ภพที่ 7 กับดาวฝ่าย ศุภเคราะห์ในภพที่ 11 จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเกิดกรณีฉุกเฉินในเรื่องข้อพิพาทตามแนวชายแดน อาจมีการปะทะด้วยกำลังอาวุธได้ มีกรณีเหตุการณ์ลุกลามไปถึงรัฐสภาในภพที่ 11 มีดาวรวมตัวกันที่ราศีกุมภ์ คือ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพุธ และดาวอาทิตย์ เป็นประ เกิดความมัวหมอง อาจต้องเปลี่ยนตัวประธานสภาใหม่ หรือมี ส.ส. หรือ วุฒิสมาชิกบางคนต้องพ้นจากตำแหน่ง ระยะนี้เรื่องอื้อฉาวไม่ว่าการทุจริตเบียดบัง หรือการซุกหุ้น ซุกเงิน การร่ำรวยผิดปกติของนักการเมือง รวมถึงข้าราชการระดับสูง จะตกเป็นข่าว
สภาพสังคมอ่อนแอ พบคนสิ้นหวังมากขึ้น ท้อแท้ชีวิต ยาเสพติด และการเข้าสู่งานผิดกฎหมายมากขึ้น เด็กและเยาวชนมักสร้างเรื่องเสื่อมเสีย โดยเฉพาะในเรื่องเพศสัมพันธ์ การทำแท้ง สถานการณ์ชายแดนภาคใต้ยังระอุ เมื่อดาวพุธเข้าสู่เรือนของราหู โดยมีดาวอังคารร่วมราศี ระเบิดพลีชีพ การวางเพลิงจะเกิดขึ้นในบริเวณศูนย์การค้า โรงแรม
ด้านการเมือง ดาวศุกร์จรทับดาวเสาร์ เรียกว่าอุบาทว์พระยม ที่ถือมาแต่โบราณว่าจะเกิดเหตุร้ายต่อดวงเมือง โดยมีหลักครูยืนยันหลายกรณี “ศุกร์เร่งปรารมภ์ *อุบาทว์พระยม จะย่ำยีอาตมา” หรือ “พระศุกร์มาถึงเสาร์จำเป็น จะได้ลำเค็ญลำบากชีโวตโม จะลดโดยภัยอะโป เกิดวิวาโท มนัสจะทุ่มเถียงกัน” นอกจากนี้ยังทำให้สูญเสียทรัพย์สิน และอาจถึงแก่ชีวิตหากมีโรคเก่ากำเริบ สรุปในด้านการเมืองจะมีการแตกแยก มีอุปสรรค
แต่ในขณะเดียวกัน ดาวศุกร์ก็ทับดาวพฤหัสบดีด้วย ก็ช่วยแก้ปัญหาอุปสรรคนั้นได้ ดังที่กล่าวไว้ว่า “ศุกร์สู่ราศีชีวา ศิริโชคสรรพา สรรพโภชตระการ” *อุบาทว์พระยมนั้นในคัมภีร์อภิไธโพทธิบาทว์กล่าวไว้ว่า หากเกิดวัวควายตายคาเรือนหรือคาแอกไถ ม้าออกลูกที่เดียว 2 ตัว หรืออกลูกแฝด ผีขว้างเรือนหรือได้ยินเสียงผีหัวเราะ เกิดเป็นไข้เรื้อรั้ง นอนฝันร้าย มีมดเรือดไรมากกว่าปกติบนบ้าน นกแสก นกเค้าแมว เหยี่ยว รวมถึงนกที่ผิดวิสัย บินเข้าในบ้านเรือน งูเห่า อสรพิษเข้าบ้าน แร้งจับหลังคาบ้านหรือมาสมจรให้เห็นในเวลากลางวัน
สิ่งเหล่านี้เรียกว่าอุบาทว์พระยม การแก้ไขจะมีบทสวดพร้อมด้วยเครื่องบูชา โดยสรุปการทำมุมของดวงดาวคือดาวเสาร์-พระราหูทำมุม 60 องศาไปยังดาวศุกร์ จะทำให้เกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจการส่งออก-นำเข้าจากต่างประเทศ ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับประเทศต่างๆ มีปัญหา เช่น ประเทศจีน อินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ตลอดทั้งเดือนดาวผู้นำจรมาในเรือนดาว ทำให้เกิดความติดขัด ไม่มีความมั่นคงในการบริหารจัดการ บริวารคนรอบข้างทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตั้งแต่ 6 มกราคมเป็นต้นไป การเมืองและเศรษฐกิจไม่ราบรื่น การค้าธุรกิจซบเซา เป็นการเริ่มต้นยุคข้าวยากหมากแพง ข้าวแกงไม่มีขาย
ด้านภัยธรรมชาติ มีลมพายุแรงโหมหัก เกิดความเสียหายรุนแรงทางตอนเหนือของไทย หลายประเทศในโซนยุโรปจะมีภัยพิบัติ อากาศแปรปรวน ไม่ควรเดินทาง โดยเฉพาะสนามบินจะมีพายุหิมะ ไม่ได้รับความสะดวก หรือมีอันตรายทางอากาศจากการทำมุมขัดแย้ง 90 องศาระหว่างดาวอังคารและดาวมฤตยูในภพวินาศ ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางควรเช็กสภาพอากาศอย่างรอบคอบ
สังคมทั่วไปค่อนข้างสงบ เนื่องจากความซบเซาทางเศรษฐกิจ ประกอบกับการที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนได้ จนประชาชนเกิดความทุกข์และเบื่อหน่ายการเมืองตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว เป็นสัญญาณให้รู้ว่าปัญหาหลักของชาติเกิดจากนักการเมือง
กุมภาพันธ์
ดาวศุกร์โคจรเร็วหรือเสริดสู่ราศีมังกร เรือนของดาวเสาร์ ซึ่งเป็นภพกัมมะ ซึ่งหมายถึงรัฐบาล บุคคลสำคัญของชาติ ชื่อเสียงของประเทศ ซึ่งทำให้เกิดความตกต่ำเนื่องมาจากมาตรฐานของดาวศุกร์เสีย และยังมีที่มาจากภพวินาศอีกด้วย แน่นอนว่าเดือนนี้เกือบทั้งเดือนกระทบต่อการเมืองที่เศรษฐกิจถดถอย หนี้สินสาธารณะของรัฐเพิ่มขึ้น และประชาชนหากินฝืดเคือง นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ลดลง เพราะพิษเศรษฐกิจที่เกิดมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาไม่มีสัญญาณที่ดีขึ้น ตรวจสอบดาวทุกดวงแล้วไม่เห็นแววที่จะทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดีได้
ในรัฐสภาก็อลเวง สภาท้องถิ่นก็ไม่ต่างกัน มีการฟาดฟันกันไม่ลดละ ไม่มีใครผิดใครถูก แต่กลายเป็นไม่มีหลักการ เพราะดาวพุธมนท์ โคจรวิปริต มีมาตรฐานต่ำ และยังเข้ามาอยู่ในเรือนพระราหูที่ราศีกุมภ์ ซึ่งเป็นดาวคู่ศัตรูอีกด้วย ทำให้เห็นว่านักการเมืองบางส่วนไร้ค่า พูดจาโกหก หลอกลวงประชาชน
กลางเดือน ภาพวุ่นวายจากการเรียกร้องให้ขึ้นค่าแรงที่เท่าเทียมกันเป็นประเด็นร้อนระหว่างสามฝ่าย คือ ลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐบาล ในช่วงนี้มีการฟ้องร้องนายจ้างเป็นคดีต่อศาลแรงมากขึ้น เพราะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งในส่วนของอุตสาหกรรมใหญ่น้อย ไล่ไปถึงพวกร้านขายอาหาร แผงลอย หาบเร่ ในขณะที่ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ก็ก่อม็อบเช่นกัน เพราะดาวเสาร์เป็นตัวแทนของผู้ใช้แรงงาน เกษตรกร ส่วนอสังหาริมทรัพย์ที่แห่กันสร้างก็ขายไม่ออก หรือยอมขาดทุน แต่ธนาคารคงไม่ยอมง่ายๆ แรงฤทธิ์ของดาวเสาร์ที่เป็นพินทุบาทว์จึงเป็นเสาร์ที่แรง เพราะบวกด้วยกำลังของพระราหู นำมาซึ่งปัญหายืดเยื้อ ยิ่งแก้ยิ่งเจ็บ ยิ่งแก้ยิ่งจน
ด้านชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนยังเกี่ยวกับภาวะดินฟ้าอากาศ ที่ยังหนาวจัดยังมีอยู่ ที่เจอพายุและน้ำท่วมแบบพลันทางตอนใต้ แผ่นดินไหวทางตอนเหนือก็มีให้เห็นอยู่ไม่ขาดสาย เพราะดาวเสาร์ ดาวศุกร์ ดาวพุธ พระราหู อยู่ในเรือนมุมหักศอกที่ส่งกระแสให้เกิดภัยพิบัติ และไม่ใช่แต่ที่เมืองไทย ประเทศเวียดนาม ไต้หวัน ญี่ปุ่น ก็จะเผชิญกับภัยธรรมชาติรุนแรง ไกลออกไปประเทศแถบยุโรปตอนใต้ก็จะมีสภาพอากาศที่เลวร้าย เกิดคลื่นลมโหมหักทำลายสิ่งปลูกสร้าง มีการระบาดของโรคที่ทำให้มีคนตายไม่น้อย
สภาพสังคมได้รับอิทธิพลจากพระราหูจึงจมอยู่ในความลุ่มหลงมัวเมา ทั้งการดื่มเหล้า ยาเสพติด การพนันบอล และอาจมีความพยายามในการผลักดันหวยออนไลน์ ส่วนหวยใต้ดิน ในปีนี้จะเป็นอาชีพหลักก็ว่าได้ ความหวังของคนส่วนมากจะอยู่ที่การแสวงหาสิ่งที่นำโชค มากกว่าจะหางานสุจริตทำหรือขยันมากขึ้น จึงน่าเป็นห่วงว่าสังคมจะยิ่งเสื่อมโทรมลงไปอีก หากไม่มีการสกัดกั้นหรือหาทางแก้ไข ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย จะโทษใครเพียงด้านเดียวไม่ได้
มีนาคม
เดือนที่ 3 ในปีนักษัตรที่ 4 (ปีมะโรง) ดวงดาวเกาะกลุ่มในสองราศีทำมุมตรีโกณ 120 องศาถึงกันอย่างน่าสนใจ กลุ่มแรกในราศีตุล ธาตุลม มีดาวเสาร์ระห่ำธาตุไฟเป็นมหาอุจร่วมด้วย ดาวราหู ธาตุลม เล็งดวงเมืองเป็นพินทุบาทว์ซ้ำซ้อน ในช่วงวันที่ 1-3 มีนาคม มีดาวจันทร์เข้ามาแซม ก็เป็นไปตามกฎว่า ดาวจันทร์ ธาตุดินผสมน้ำ เมื่อเจอกับเสาร์และราหู ก็จะเป็นวันที่เกิดภัยได้หลายอย่างกับประชาชนทั่วไป เช่น เดือดร้อนเพราะถูกจี้ ปล้น และสภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวน วิปริต มีความเสียหายต่อการเกษตร แผ่นดินเดือด ไฟไหม้ ฟ้าผ่า พายุรุนแรง ภาคอีสานจะพบภัยพิบัติมากกว่าภาคอื่นๆ ทั้งความหนาวที่หลงเหลืออยู่ และการทรุดตัวของชั้นดิน ก่อให้เกิดแนวไหลเลื่อน หรือแผ่นดินไหวและไฟป่า
ด้านการเมืองยังคงมีปัญหาไปเรื่อยตลอดทั้งปี คนในรัฐบาลขัดแย้งกันรุนแรง ไม่ใครก็ใครต้องพ้นตำแหน่งไป ผู้นำมีเรื่องเสียหาย เจ็บป่วยหนัก เพราะได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ด้วยการทำมุมของดาวบาปเคราะห์ภพที่ 7 กับดาวฝ่าย ศุภเคราะห์ในภพที่ 11 จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเกิดกรณีฉุกเฉินในเรื่องข้อพิพาทตามแนวชายแดน อาจมีการปะทะด้วยกำลังอาวุธได้ มีกรณีเหตุการณ์ลุกลามไปถึงรัฐสภาในภพที่ 11 มีดาวรวมตัวกันที่ราศีกุมภ์ คือ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพุธ และดาวอาทิตย์ เป็นประ เกิดความมัวหมอง อาจต้องเปลี่ยนตัวประธานสภาใหม่ หรือมี ส.ส. หรือ วุฒิสมาชิกบางคนต้องพ้นจากตำแหน่ง ระยะนี้เรื่องอื้อฉาวไม่ว่าการทุจริตเบียดบัง หรือการซุกหุ้น ซุกเงิน การร่ำรวยผิดปกติของนักการเมือง รวมถึงข้าราชการระดับสูง จะตกเป็นข่าว
สภาพสังคมอ่อนแอ พบคนสิ้นหวังมากขึ้น ท้อแท้ชีวิต ยาเสพติด และการเข้าสู่งานผิดกฎหมายมากขึ้น เด็กและเยาวชนมักสร้างเรื่องเสื่อมเสีย โดยเฉพาะในเรื่องเพศสัมพันธ์ การทำแท้ง สถานการณ์ชายแดนภาคใต้ยังระอุ เมื่อดาวพุธเข้าสู่เรือนของราหู โดยมีดาวอังคารร่วมราศี ระเบิดพลีชีพ การวางเพลิงจะเกิดขึ้นในบริเวณศูนย์การค้า โรงแรม
ในประเทศอื่นๆ มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ จึงยังไม่มีภัยธรรมชาติหนักซ้ำเติม ยกเว้นประเทศจีน ที่จะได้รับผลร้ายรุนแรง รวมถึงสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) ที่ติดกับจีนและอินเดีย จะมีภัยพิบัติคล้ายๆ ที่ผ่านมาครั้งหลังสุด
การเข้าสู่ความเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา ในประการแรกเปลี่ยนปีนักษัตรเป็น “ปีมะเส็ง” ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 และเป็น “ปีใหม่ไทย หรือตรุษไทย” ที่สังคม ชาติ วัฒนธรรม ลืมกันไปหมดแล้ว ปีมะเส็งเป็นปีที่ 6 ตรงกับตำแหน่งของดาวพฤหัสบดี เป็นกาลกิณีจร ดังนั้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจึงทำได้ยากยิ่ง เพราะมีผลกระทบมาจากประเทศอื่นๆ เป็นลูกโซ่
ดังนั้นการเก็งกำไร การลงทุน จะต้องระมัดระวัง ความพินาศทางการเงินเกิดขึ้นได้ชั่วพริบตา แต่ดวงเมืองที่ยังแข็งแกร่งได้ก็เพราะดาวอาทิตย์ที่กุมลัคนาเป็นปรมัตถ์อุจ และเป็นมหาจักรในนวางค์จักรร่วมกับดาวพฤหัสบดีที่เป็นมหาอุจ และดาวอังคารที่เป็นนิจ คือเสื่อมคุณภาพ ได้เป็นคู่มิตร (อาทิตย์กับพฤหัสบดี) คู่สมพล (พฤหัสบดีกับอังคาร) และคู่ศัตรู (อาทิตย์กับอังคาร) เศรษฐกิจ หรือฐานะของประชาชน รายได้ จึงแตกต่างกันมาก พื้นฐานของประเทศสามารถติดอันดับความมั่งคั่งระดับโลกได้ เพราะมีทรัพยากรมากมหาศาล
แต่ยังไม่ได้นำมาใช้อย่างจริงจัง เพราะการเมืองมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัว จึงไปลงทุนนอกประเทศ เช่น การขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ทำให้ต้องมีการนำเข้า ผ่านขั้นตอนของภาษีสรรพสามิต และยังผูกติดราคาน้ำมันอ้างอิงไว้กับต่างชาติ เช่น สิงคโปร์ น้ำมันในเมืองไทยจึงแพงบรรลัยโลก เพราะการแปลงสัมปทานของรัฐบาลที่เลวที่สุดจนถูกยึดอำนาจ
ในเดือนเมษายนนี้ ดาวอาทิตย์จะยกสู่ราศีเมษในภพที่ 1 ในเวลา 01.00 นาฬิกา 58 นาที 48 วินาที เป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันเสาร์ มีนางสงกรานต์ชื่อ มโหธรเทวี วันเสาร์เป็นวันมหาสงกรานต์ มีคำทำนายแต่โบราณว่า โจรผู้ร้ายจะชุกชุม จะเกิดการเจ็บไข้ร้ายแรง
ส่วนสำคัญที่สุดคืออิริยาบถที่นางสงกรานต์ขี่พาหนะมา อันเป็นการบอกช่วงเวลาว่า พระอาทิตย์เคลื่อนสู่ราศีเมษเวลาใดของวันมหาสงกรานต์ จะมีด้วยกัน 4 ท่าทาง โดยมีความหมาย ดังนี้
1.ถ้ายืนมาบนพาหนะ หมายถึง พระอาทิตย์ยกสู่ราศีเมษในระหว่างเวลารุ่งเช้าจนถึงเที่ยง
2.ถ้านั่งมาบนพาหนะ หมายถึง ช่วงเที่ยงจนถึงค่ำ
3.ถ้านอนลืมตามาบนพาหนะ หมายถึง ช่วงค่ำไปจนถึงเที่ยงคืน
4.ถ้านอนหลับตามาบนพาหนะ หมายถึง เที่ยงคืนไปจนถึงรุ่งเช้า
สำหรับความเชื่อเกี่ยวกับอิริยาบถของนางสงกรานต์นั้น เชื่อกันว่าถ้านางสงกรานต์ยืนมา จะเกิดความเดือดร้อน เจ็บไข้ ถ้านางสงกรานต์นั่งมา จะเกิดความเจ็บไข้ ผู้คนล้มตาย และเกิดเหตุเภทภัยต่างๆ ถ้านางสงกรานต์นอนลืมตา ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข
2.ถ้านั่งมาบนพาหนะ หมายถึง ช่วงเที่ยงจนถึงค่ำ
3.ถ้านอนลืมตามาบนพาหนะ หมายถึง ช่วงค่ำไปจนถึงเที่ยงคืน
4.ถ้านอนหลับตามาบนพาหนะ หมายถึง เที่ยงคืนไปจนถึงรุ่งเช้า
สำหรับความเชื่อเกี่ยวกับอิริยาบถของนางสงกรานต์นั้น เชื่อกันว่าถ้านางสงกรานต์ยืนมา จะเกิดความเดือดร้อน เจ็บไข้ ถ้านางสงกรานต์นั่งมา จะเกิดความเจ็บไข้ ผู้คนล้มตาย และเกิดเหตุเภทภัยต่างๆ ถ้านางสงกรานต์นอนลืมตา ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข
ถ้านางสงกรานต์นอนหลับตา พระมหากษัตริย์จะเจริญรุ่งเรืองดี ซึ่งนางสงกรานต์มโหธรเทวี ไสยาสน์หลับเนตรมาบนหลังนกยูง ก็ทำให้เราชาวไทยเกิดความสบายใจ ว่าไม่มีใครจะทำลายสถาบันได้ และพระองค์ซึ่งเป็นพระประมุขปกครองราชอาณาจักรไทยจักมีพระพลามัยแข็งสมบูรณ์ ทรงพระเจริญด้วยพระบารมีและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครอง
เรื่องของสงกรานต์ปีนี้ยังมีรายละเอียดอีกคือ นางสงกรานต์ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว ก็คือดอกผักตบชวา แปลโดยตามตัวอักษรก็คือ การพูดจาสามหาวของคนในชาติที่ใช้สีแดงเป็นตราบาป ไม่เกรงกลัวใคร ไม่เคารพศาล ดูหมิ่นสถาบัน ด่าแช่งฟ้าดิน ในสภาด่ากันแหลก ประชาชนก็ด่ารัฐบาลแหลก
สังเกตได้ว่าคนไทยพูดจาหยาบคาย ด่าทอมากขึ้น เพราะความไม่พอใจรัฐบาลและนักการเมือง ส่วนแก้วนิลรัตน์เป็นอาภรณ์ เนื้อทรายเป็นภักษาหาร พระหัตถ์ขวาทรงจักร อาวุธของเทพ เช่น พระนารายณ์ ก็คงจะมาปราบมารไพร่ไพรีในชาติ พระหัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล อาวุธนี้ในเรื่องรามเกียรติ์ (นารายณ์อวตาร) เป็นอาวุธของหนุมาน ซึ่งก็คือเทพในศาสนาฮินดู แปลว่าจะมีหนุมานอาสาไปเอากล่องดวงใจของพญามารมาได้ตามที่พิเภก ผู้เป็นโหร ล่วงรู้อนาคตบอกความลับนี้ ทำให้ชาติบ้านเมืองพ้นจากอริศัตรูภายในที่อยู่ภายนอกประเทศได้สำเร็จก็เป็นไปได้
นอกจากนี้ การเถลิงศกใหม่เป็นจุลศักราช 1375 ในวันที่ 16 เมษายน ทำให้เกิดกาลโยค วันดี วันร้าย ตรงกับรัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.) 232 ได้แก่ วันพฤหัสบดีเป็นวันธงชัย วันอาทิตย์เป็นวันอธิบดี วันพุธเป็นวันอุบาทว์ และวันโลกาวินาศคือวันอังคาร ก็สำหรับไว้ใช้ในการประกอบการมงคล และห้ามทำการมงคลแบบง่ายๆ และยังมีผลต่อการเกิด กำเนิดของคนในปีนี้ ซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2556 เป็นต้นไป
มีข้อคิดว่า จุลศักราชปีนี้คือ 1375 รวมแล้วได้ 16 และ 1+6 = 7 เทียบได้กับดาวเสาร์ตามแบบโหราศาสตร์ไทย และดาวเสาร์เล็งดวงเมืองเป็นพินทุบาทว์ ก็น่าจะเพิ่มระดับความรุนแรงของภัย 10 ประการให้มีน้ำหนักความเป็นไปได้มากขึ้น คนจะตายเป็นเบือ เกิดโรคระบาดมาพร้อมกับประเพณีสงกรานต์
สถานการณ์ทางการเมืองในเดือนที่ร้อนแดดแผดเผา ดวงเมืองยังถูกกระหน่ำด้วยดาวเสาร์และพระราหู ในภพวินาศดาวศุกร์เป็นมหาอุจทับศุกร์เดิม ที่จริงเป็นเรื่องดี อย่างน้อยประชาชนทำมาหากินสะดวกขึ้น มีรายได้มากขึ้น แต่ก็เพียงชั่วครู่ชั่วยาม ดาวอังคารมาทับพระราหู ทับพุธเดิม เป็นทั้งคู่ธาตุและคู่ศัตรู ในรูปการณ์นี้ ภัยธรรมชาติก็จะรุนแรง พายุโครมครามหักโค่น น้ำ ลม ไฟ มาพร้อม คงต้องระมัดระวัง ช่วยกันเตือนภัยหากมีสิ่งผิดสังเกต
ด้านการเมืองปั่นป่วน หากยังเป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอยู่ ทำอะไรก็ล้มเหลว แถมยังฟัดกันเอง ไม่มีใครยอมรับผิดในความเสียหาย และนำความมัวหมองเสื่อมเสียมาให้ประเทศชาติ ถูกศัตรูลบหลู่ อาจมีการเพิ่มกำลังมาใกล้ชิดในแนวปะทะพร้อมรบ เพราะคนในรัฐบาลปากเสีย สามหาว กระทบความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ด้วยอิทธิพลของดาวและสถานการณ์ที่มีคนเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็คงไม่มีรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” แล้ว
เศรษฐกิจดีขึ้นจากการที่ดาวศุกร์จรเข้าร่วมอังคาร ในขณะที่ดาวอาทิตย์จรทับดาวอาทิตย์เดิมที่กุมลัคนา ดาวอาทิตย์เป็นดาวเจ้าเรือนปุตตะ หรือภพที่ 5 และดาวอังคารได้มาตรฐานเกษตรคู่มิตรกับดาวศุกร์ ก็จะเป็นเดือนที่ประชาชนส่วนมากมีความสุข มีความหวัง แต่ก็จะคลั่งไคล้ในการพนันเสี่ยงโชคกันเป็นพิเศษ ปลายเดือนดาว ศุภเคราะห์ 4 ดวงชุมนุมในภพที่ 1 ทำให้ความเป็นไปของประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ จากที่แย่ยับเยิน เพราะเสาร์กระหน่ำ ราหูเบียดเบียนซ้ำ เป็นรุ่งโรจน์ขึ้นมาบ้าง แม้ว่าเป็นแค่ชั่ววูบเหมือนจุดพลุ
ในต่างประเทศแถบยุโรปตอนใต้ ตอนเหนือ อเมริกาใต้ และประเทศที่อยู่แถบเส้นศูนย์สูตรจะเผชิญกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ประเทศที่จะมีการเรียกร้องเพื่อเปลี่ยนแปลงรัฐบาลจะอยู่ในชาติอาเซียน และประเทศที่แยกตัวมาจากรัสเซีย เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจเป็นต้นเหตุ และลุกลามไปถึงขั้นจลาจล
พฤษภาคม
ในประวัติศาสตร์ทางการเมือง เดือนนี้เคยมีเหตุการณ์ที่เรียกกันว่าพฤษภาทมิฬ เมื่อวันที่ 17-18 พฤษภาคม ผ่านมา 21 ปี นักศึกษาประชาชนเกือบ 500,000 คน เรียกร้องให้ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ลาออกจากการเป็นนายกฯ เหตุการณ์โหดร้ายนี้มีคนตายมาก สูญหาย กลายเป็นคนบ้าเสียสติ เพราะเห็นภาพการปราบปรามที่รุนแรง เหตุการณ์ยุติลงเมื่อ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นำพล.ต.จำลอง ศรีเมือง และ พล.อ.สุจินดา เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่ามกลางเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีของประชาชน วันที่ 23 พฤษภาคม พล.อ.สุจินดาได้ออกพระราชกำหนดนิรโทษกรรมให้แก่ตนเอง วันต่อมาได้ประกาศลาออก จากนั้นได้ลี้ภัยไปต่างประเทศระยะหนึ่ง ก่อนจะกลับมาใช้ชีวิตในเมืองไทยตามปกติตราบจนทุกวันนี้ เหตุการณ์พฤษภาทมิฬยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ ว่าใครคือผู้สั่งฆ่าประชาชน? มือที่สามมีจริงหรือไม่? ใครคือผู้เผา สน.นางเลิ้งตัวจริง? ศพของประชาชนที่เสียชีวิตอยู่ที่ไหน? ดวงดาวในขณะนั้นมีดาวอังคารจรในภพวินาศ พระราหูและดาวมฤตยูทับดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ทำมุมพุ่งไปยังดาวอาทิตย์ ดาวศุกร์จรทับอาทิตย์ แม้จะเกิดเรื่องใหญ่ แต่ก็จบเร็ว โดยองค์พระประมุขคือดาวอาทิตย์ คือสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์
แต่พฤษภาคมปีนี้ช่วงกลางเดือนไปแล้ว ปรากฏว่ามีดาวกระจุกตัวในภพที่ 2 ถึง 5 ดวงซึ่งหมายถึงความเปลี่ยนแปลงจิตใจของผู้คนให้รู้สึกผิดชอบชั่วดีกันมากขึ้นบ้าง รู้จักประหยัด ตัดรายจ่าย ภาพรวมในด้านเศรษฐกิจเป็นไปแบบไม่แน่นอน เพราะดาวศุกร์โคจรวิกลคติในภพที่ 2 ตลาดหลักทรัพย์ปั่นป่วน หุ้นร่วงกราวรูด ธนาคารฉวยโอกาสหน้าเลือดเอาเล็กเอาน้อยกับผู้มีบัญชีกับธนาคาร มีการขึ้นค่าธรรมเนียม ทำให้ถูกด่า ธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะต้องออกกฎเกณฑ์ควบคุมให้รัดกุม การส่งออกสินค้าเกษตรเกิดความเสียหาย เพราะผลผลิตมีไม่พอเพียง ทำให้ประเทศอื่นแย่งตลาดไปได้
การเมืองทำท่าจะไปไม่รอด เพราะดาวพฤหัสบดีจรวิปริตในลักษณะของการมนท์ ที่หมายถึงเฉื่อยช้า และยังได้มาตรฐานเป็นประ ที่ชี้ชัดถึงความไม่มั่นคง และดาวนี้ยังส่งกระแสไปถึงดาวเสาร์และพระราหูที่เป็นพินทุบาทว์ ทำให้มีการทุจริตกันไปทั่วกับโครงการต่างๆ อย่างไม่เกรงกลัวการตรวจสอบ เพราะได้ดาวกิเลส คือดาวศุกร์ ถูกดาวอาทิตย์และดาวอังคารมากระตุ้นให้เกิดความโลภ
ในด้านธุรกิจการค้าก็เช่นกัน ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบ ขึ้นราคาสินค้าตามอำเภอใจ ไร้กฎเกณฑ์ แต่ประชาชนที่คลั่งไคล้หวยจะมีโชคลาภลอยกันเป็นที่เกรียวกราวกับเลขเด็ดที่มาทุกงวดติดต่อกัน การเงินนอกระบบยังเป็นเรื่องใหญ่ ใช้ระบบมาเฟียข่มขู่เอากับผู้ประกอบการค้าแบบหาเช้ากินค่ำ ภาครัฐควรเข้ามาดูแลและจัดการกับอาชีพให้กู้เงินดอกเบี้ยโหดรายวัน เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ทั้งๆ ที่ดาวเอื้ออำนวยให้แล้ว
สภาพดินฟ้าอากาศมีฝนตกมากในภาคเหนือ เกิดความแห้งแล้งในภาคกลางและภาคใต้ แต่ไม่มีแผ่นดินไหวหรือภัยพิบัติร้ายแรง ภาคการเกษตรจะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนน้ำ และมีแมลงทำลายพืชผล มีการค้นคิดนวัตกรรมใหม่ๆ ให้การเพาะปลูกมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ในต่างประเทศจะมีพายุใหญ่ที่เกาะอังกฤษ และข้ามทวีปไปยังสหรัฐอเมริกา มีปัญหาภัยธรรมชาติ ความร้อนที่เป็นคลื่นกระจายไปทั่ว ธารน้ำแข็งบนยอดเขาหิมาลัยละลายอย่างหนัก แต่ยังไม่ส่งผลวิกฤติ ชาติในอาเซียน รวมไปถึงออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อาจเจอกับคลื่นสึนามิขนาดน้องๆ ไม่มีผลเสียหาย
มิถุนายน
สถานการณ์การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลเป็นไปแบบครึ่งๆ กลางๆ เนื่องจากในภพที่ 10 มีพระเกตุจรมาตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนจนถึง 17 มิถุนายน เรียกว่าทำงานกันไปแบบไม่มีแผน ไม่มีนโยบาย เศรษฐกิจก็ย่ำแย่ เพราะในระดับชาติไม่มีการบูรณาการหาทางแก้ไข มีแต่ภาคเอกชนเท่านั้นที่สู้เพื่อตัวเอง และก็มีผลในภาพรวมต่ออัตราการเจริญเติบโตที่พอจะทำให้การเงิน การคลัง การจัดเก็บภาษี เป็นไปอย่างน่าพอใจ แต่ก็จะถูกคู่แข่งทางการค้าประเทศเพื่อนบ้านตัดราคา ทำให้การเป็นแชมป์ส่งออกหลายรายการต้องหลุดไป เนื่องจากดาวศุกร์ที่ไม่ได้ช่วย และยังมาทับดาวมฤตยูอีกด้วย ทำให้การแข่งขันเป็นไปอย่างยากเย็น สูญเสียเม็ดเงินไปมาก
เพราะพระราหูที่เดิมอยู่ในภพวินาศ เป็นกาลกิณีจรเล็งดวงเมือง และเป็นดาวเจ้าเรือนของภพที่ 11 ทำให้การเมืองในรัฐสภาปั่นป่วน รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ไม่ราบรื่น ตราบใดที่ทั้งดาวเสาร์และราหูยังเล็งลัคนาที่ตั้งรับด้วยดาวอาทิตย์ ทำให้คนในชาติที่เป็นคนละฝ่ายไม่เลิกราที่จะข่มขู่ ใช้อำนาจข่มเหง ใครด้อยกว่าก็ต้องยอม มักมีเรื่องอกสั่นเสียขวัญจากการวางระเบิดที่โน่นที่นี่ และพระราหูก็จะคอยก่อกวนให้มีสารพันปัญหา มีเรื่องร้ายแรงได้ รวมไปถึงการระบาดของโรคสายพันธุ์เก่าที่กลับมาอีกดังตำราโหรกล่าวไว้ว่า “อสุรินทร์ราหู จรจากกรากร กุมเล็งรวิวาร จะประทุษฐลาภา ศัตรูจะเมียงมาตร จะวิวาทวิททา...” และ “ราหูดำเนินไคลคลา ถึงพระสุริยากำเนิด จรเกิดศัตรู พยาธิจะมาเพิ่มฟู...”
ในส่วนของเศรษฐกิจ การลงทุนจากต่างชาติรายใหญ่แทบไม่มี มีเพียงสำรวจแล้วก็ไปที่อื่นที่มีค่าแรงหรือต้นทุนต่ำกว่า สำหรับคนทั่วไปก็พออยู่ได้แบบมีใช้ไปวันๆ หรือเดือนต่อเดือน จะหวังเก็บเงินก็คงยาก และต้องระวังอย่าได้เป็นหนี้สิน ควรแสวงหาความสงบสุข ไม่ฟุ้งเฟ้อ ก็จะไม่เดือดร้อน
ภัยพิบัติในเดือนนี้ก็จะมีบ่อยครั้ง แต่เป็นช่วงสั้นๆ และไม่กระจายในวงกว้าง เช่น มีอุทกภัย แต่ก็จะเป็นบางพื้นที่ บางจังหวัด อย่างสุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร ก็จะมีปัญหานี้ในช่วงปลายเดือน ส่วนแผ่นดินไหวก็จะไม่กี่ริกเตอร์ เช่น ที่ จังหวัดระนอง จังหวัดตาก จังหวัดเลย
ภัยสังคมคือการจี้ปล้นจะมีมากขึ้น การขายยาเสพติดแผ่ขยายและยากที่จะปราบปราม คนสิ้นคิดมีมาก เพราะยังมีการยึดติดในเรื่องทุนนิยมสามานย์ เอารวยไว้ก่อน ไม่ว่าจะผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม จารีตประเพณี นอกจากนี้จะเห็นบทบาทของนักวิชาการที่แสดงความเลว ความเพี้ยน ออกนอกลู่นอกทาง เพราะอิทธิพลของดาวพฤหัสบดีเป็นประ และพระเกตุจรในภพที่ 9 ทำให้เกิดสติแตก กล้าคิด กล้าเสนอในสิ่งที่ผิดด้วยความหลงตัวเอง อยากดังจนตัวเองต้องติดคุก หรือถูกสังคมประณาม นักวิชาการจอมปลอมจะมีมากขึ้น สถานศึกษาเล่าเรียนจะเสียชื่อ มัวหมอง เพราะการเรียกเก็บเงินจากผู้ปกครองมากเกินกว่าเหตุ เพราะในภพที่ 3 มีดาวพฤหัสบดีจรร่วมด้วยดาวอาทิตย์ ดาวพุธและดาวศุกร์ ล้วนแล้วแต่ยั่วยุให้เกิดกิเลส ขาดสติปัญญา
กรกฎาคม
เดือนที่ 7 ในปีมะเส็ง 2013 ปรากฏการณ์ในราศีมิถุน ดาวจันทร์ทับดาวพุธ ทับดาวพฤหัสบดี เป็นที่พยากรณ์ได้ว่าต้นร้ายปลายดี จัดเป็นช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านไปด้วยกันได้ดี ในภพที่ 3 นี้มีดาวอาทิตย์และดาวอังคารร่วมอยู่ด้วย ก็ต้องระวังการกระทบกระทั่งในด้านความคิดเห็นของประชาชนและสื่อต่างๆ ที่จะเป็นตัวเร่งความขัดแย้ง ดาวพลูโตและดาวเนปจูนทำมุมโยคต่อกันจากภพที่ 9 ไปยังภพที่ 11 ทำให้มีปัญหาในเรื่องของประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญไปอีกนาน เพราะฝ่ายพลูโตต้องการพัฒนา แต่ฝ่ายเนปจูนขัดขวาง และลวงโลก อำพรางสิ่งที่ซ่อนไว้ ดาวทั้งสองดวงใช้เวลาโคจรในแต่ละราศีนานมาก ดังนั้นประชาธิปไตยแบบไทยแลนด์จึงเป็นวงจรอุบาทว์ รัฐธรรมนูญจึงมีมากถึง 18 ฉบับ แก้ไขครั้งใดก็มีฝ่ายไม่พอใจทุกครั้ง
เหตุการณ์ในเดือนนี้มีดาวศุกร์โคจรด้วยมาดของราชาโชคในภพที่ 4 ดาวฝ่ายดีปรากฏเช่นนี้ ทับดาวจันทร์ ก็จะมีเรื่องที่ทุกคนทุกฝ่ายพอใจ เว้นไว้ก็แต่นักการเมืองและคณะรัฐมนตรีที่ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ มีแต่อุปสรรค แต่ก็คงได้อานิสงส์ไปบ้าง ดังนี้ “ศุกร์จับจันทร์บริบูรณ์ ทายดุจพระสูรย์ประโยชน์อันเดียวมาสนอง” และ “ศุโกรโคจรถึงจันทร์ ลาภาอนันต์ อเนกด้วยศฤงคาร จักได้มิ่งมิตรเพาพาล ศัตรูบันดาล พินาศม้วยมรณา”
จากคำพยากรณ์นี้อาจเป็นผลร้ายต่อรัฐบาลและการเมืองได้ เพราะดาวศุกร์มาจากภพที่ 12 เป็นวินาศลัคน์ และเป็นเจ้าเรือนในภพที่ 7 ซึ่งถูกดาวบาปเคราะห์คือดาวเสาร์ระห่ำ และพระราหูชอนไช เซาะกร่อนให้รัฐบาลบังเกิดความเซซวนจวนล้มมิล้มแหล่ แต่ด้วยเสียงข้างมากลากไป ก็ถูไถถ่วงเวลาไปวันๆ พอๆ กับม็อบขยันออกมาใช้กำลังหมู่มากกดดันที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Mobocracy คือไม่ได้อะไรดั่งใจก่อม็อบชุมนุมประท้วง ข่มขู่ คุกคาม โดยอ้างประชาธิปไตยร่ำไปจนพร่ำเพรื่อ (ศัพท์นี้มีอยู่ใน Webster Dictionary)
แม้ว่าดาวศุกร์ทับดาวจันทร์ก่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ ประชาชนมีความสุข แต่อย่าลืมว่าราศีกรกฎเป็นราศีธาตุน้ำ และดาวศุกร์ก็ธาตุน้ำ ดาวจันทร์ก็จัดว่าเป็นธาตุดินชุ่มน้ำ ดังนั้นตลิ่งถูกน้ำเซาะพังได้ง่าย น้ำท่วมหรือฝนตกหนักตลอดทั้งเดือน ในจังหวัดทางภาคเหนือและจังหวัดในภาคตะวันออก ตามพุทธทำนายที่ว่า “ล่วงได้ ปีมะเส็ง พ.ศ.2556 ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล”
มองออกไปยังต่างประเทศ ยังมีโชคร้ายอยู่ในด้านเศรษฐกิจ แม้จะพยายามกู้วิกฤติกันเต็มที่ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะดวงโลกกับดวงเมืองไทยมีลัคนาสถิตในราศีเมษเหมือนกัน ข้อดีก็คือประชากรโลกมีความขยันขันแข็ง แต่ก็ต้องต่อสู้ดิ้นรน เพราะดาวอังคารซึ่งเป็นตนุลัคน์นั้น เป็นดาวเจ้าเรือนในภพที่ 8 หรือภพมรณะ กองทุนเงินกู้ระหว่างประเทศจึงเกิดขึ้นเพื่อสนองนโยบายทุนนิยม ทุกประเทศจึงเป็นหนี้ การทำสัญญาที่มีลับลมคมใน รวมถึงรัฐบาลมักไม่มีความโปร่งใส เพื่อหาประโยชน์ไม่ใช่เฉพาะแต่ประเทศของตนเท่านั้น
แต่ยังหาทางไปเอาผลประโยชน์จากชาติอื่นอีกด้วย เพราะชาติมหาอำนาจยังไม่เคยเปลี่ยนแปลงความคิดที่จะเป็นเจ้าโลก แต่ในปี 2013 ที่นำมารวมกันแล้วได้ 6 (2+0+1+3) มีคำพยากรณ์ว่า เป็นเลขแห่งการตอบสนองในด้านวัตถุนิยม ธนาธิปไตย ทุนนิยมสามานย์ที่แพร่หลายจนทุกประเทศที่ยอมรับกลับมีแต่ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ คนว่างงานมาขึ้น และเป็นปีที่คนชอบความหรูหรา สะดวกสบาย เป็นประเภทที่เรียกว่าจมไม่ลง ส่วนภัยพิบัติจะเน้นที่การเกิดอุทกภัยแบบน้ำป่าไหลจากภูเขา
สิงหาคม
ดาวอาทิตย์ยังทรงคุณภาพเป็นมหาจักรในภพที่ 4 ทำมุมขัดแย้งกับดาวเสาร์และพระราหูจรในภพที่ 7 และดาวจรทั้ง 2 นี้ก็ส่งแรงโยคไปยั่วดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีเดิมในภพที่ 9 คำพยากรณ์ก็จะเป็นความยากลำบากของเกษตรกร ที่ภาครัฐและราชการไม่ได้ดูแลเอาใจใส่ ทำให้ขาดทุน พร้อมโดนฟ้าฝนกระหน่ำอย่างหนักจนผลผลิตเสียหาย เมื่อภาคการเกษตรเสียหาย ผลกระทบก็มาถึงประชาชนทั่วไปที่เป็นผู้บริโภค เกิดการขาดแคลนอาหาร จัดเป็นภัยประการที่ 8 คือ ทุพภิกขภัย จะเกิดข้าวยากหมากแพงและอดอาหาร เป็นไปตามลักษณาการของดาวที่ร้อยเรียงเป็นโยคแก่กันจากภพที่ 3 มายังภพที่ 5 และภพที่ 7
ในขณะที่ฝ่ายรัฐมัวแต่เร่งรัดโครงการคมนาคมที่ไม่จำเป็นและไร้ประโยชน์ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูง ที่ประเทศอื่นๆ เลิกใช้ไปแล้ว เพราะอัตราค่าโดยสารแพงพอๆ กับค่าตั๋วเครื่องบิน การกระทบของดวงดาวเชื่อมโยงไปถึง 4 ภพด้วยกัน คือดาวจร 3 ตำแหน่ง ส่งแรงกระแทกไปยังภพที่ 9 ทำให้สถาบันหลักของชาติสั่นสะเทือน เพราะผู้ประสงค์ร้ายที่มาในคราบของนักวิชาการที่ฝังตัวเป็นกาฝากในมหาวิทยาลัย และปลุกระดมให้นิสิตนักศึกษาเข้าใจผิด เดือนนี้มีปัญหาหลายอย่างที่เกิดจากคนที่มุ่งหมายทำลายชาติ ระบบการศึกษามัวหมอง เกิดความอัปยศเสื่อมเสีย ในด้านศาสนาจะมีพระเถระผู้ใหญ่จากไป มีพระสงฆ์ทำตัวเป็นผู้ยิ่งใหญ่ มีความเอนเอียงในทางการเมืองอย่างชัดเจน จนถูกสังคมต่อต้าน
วงการวิทยาศาสตร์ หันมาสนใจวิชาโหราศาสตร์ เพราะทึ่งในการทำนายถึงภัยธรรมชาติล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ และสามารถล่วงรู้ได้ล่วงหน้าหลายปี
ในทางการเมืองตลอดทั้งเดือนไม่มีความเคลื่อนไหวจนถึงวันที่ 14 สิงหาคม ดาวศุกร์เสริดมายังภพที่ 5 ยังผลให้การเมืองเริ่มมีปัญหา หนี้สาธารณะเบอะบาน การใช้งบประมาณไม่โปร่งใส เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ในช่วงนี้เรื่องของหวยออนไลน์ บ่อนกาสิโน กลับมากล่าวขวัญและทำกันให้ได้เพื่อมอมเมาประชาชนให้มีความหวังกับการเสี่ยงโชค มากกว่าจะหาทางอื่นให้มีรายได้เพิ่มขึ้น หรือจัดทำให้เป็นรัฐกึ่งสวัสดิการ ไม่มีการให้ฟรีก็จะเหมาะสม ดาวศุกร์นี้มาจากภพวินาศ + กดุมพะ + ปัตนิ หมายความว่า รายได้ของรัฐจะมีมาหาได้จริง แต่ก็ถูกล้างผลาญไปกับโครงการไร้ประโยชน์หรือทุจริตกันแบบลับๆ โดยมีต่างประเทศให้ความร่วมมือ ในอดีต สหรัฐให้เงินกับรัฐบาลเผด็จการในการพัฒนามหาศาล แต่ก็ตักตวงและเอาผลประโยชน์กลับคืนไป มาในยุคนี้ก็มีข้อเสนอที่เนียนขึ้น เช่น องค์การอวกาศสหรัฐจะมาใช้อู่ตะเภา โดยอ้างว่าจะสำรวจสภาพอากาศบ้างอะไรบ้าง ซึ่งก็ไม่จริงทั้งหมด อีกไม่กี่วันต่อมาดาวศุกร์โคจรวิปริตเข้าสู่ภพที่ 6 จะมีการใช้เงินในด้านการแพทย์สาธารณสุข หรือเกิดโรคระบาด ข้าราชการประพฤติมิชอบ มีการวิ่งเต้นเตรียมซื้อตำแหน่งกันเกรียวกราว
ในภพที่ 3 เป็นภพนำร่องชี้ทิศทางของชาติ มีดาวพฤหัสบดีเป็นประ คือความไม่มั่นคงในด้านการต่างประเทศ การติดต่อซื้อขาย หรือทำสัญญา ก็เสียเปรียบ มีดาวอังคารอยู่ด้วยคงเป็นการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ถูกหลอกอีกเช่นเคย ภาพรวมก็คือรัฐบาลไม่มีอะไรดีขึ้น รอวันเปลี่ยนแปลงที่ดูมืดมนเหมือนคนไทยตกอยู่ในแดนสนธยา สังคมยังอุดมด้วยอาชญากร ยาเสพติด ความฟุ้งเฟ้อ
ในด้านภัยพิบัติ สงบราบเรียบดี ต่างประเทศก็ไม่มีเหตุร้ายแรงนอกจากปัญหาเศรษฐกิจ และการแข่งขันกันมีอำนาจเหนือดินแดนที่มีทรัพยากรน้ำมัน จนถึงขั้นต้องใช้กองกำลังปะทะกันแล้วจึงหันมาเจรจา
ในด้านภัยพิบัติ สงบราบเรียบดี ต่างประเทศก็ไม่มีเหตุร้ายแรงนอกจากปัญหาเศรษฐกิจ และการแข่งขันกันมีอำนาจเหนือดินแดนที่มีทรัพยากรน้ำมัน จนถึงขั้นต้องใช้กองกำลังปะทะกันแล้วจึงหันมาเจรจา
กันยายน
ในทางการเมืองน่าจะได้ผู้นำคนใหม่หรือรัฐบาลชุดใหม่แบบโละทิ้งของเก่าไป เพราะขืนบริหารต่อเรื่อยๆ ไป ชาติไทยไร้อนาคตแน่ นักการเมืองฝ่ายค้านรุกหนักโดยมีมวลชนเป็นกองเชียร์ การตรวจสอบรัฐบาลเข้มข้น จนสามารถยื่นให้ ป.ป.ช.เชือดได้หลายคน หลายเรื่องทุจริต เดือนนี้มีเงื้อมเงาแห่งการเกิดสถานการณ์ที่ประชาชนส่วนใหญ่รับไม่ได้ แต่ก็ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ อย่างชัดเจน ดาวศุกร์ยังโคจรเร่งรุดต่อไปยังภพที่ 7 ไปรวมกลุ่มกับดาวเสาร์และพระราหู แม้ว่าดาวศุกร์จะได้มาตรฐานเกษตร
แต่ก็เป็นคู่ศัตรูกับดาวเสาร์ที่เป็นพินทุบาทว์รอคอยอยู่แล้ว ดังหลักโหรอ้างอิงไว้ว่า “ศุโกรโคจรลี ถึงราศีที่โสรา สดายุต้องภัยยา เพราะวาจาจนตัวตาย จะเสียหายทรัพย์สิ่งสิน สิ้นชีวาขาดบรรลัย” และดาวศุกร์ถึงพระราหูก็กล่าวไว้ว่า “ศุโกรโคจคลา ถึงฐานาอสุรินทร์ ทศกัณฐ์อายุสิ้น ศรนรินทร์ต้องกายา ลูกเมียและข้าไท จะพลัดพรากจากเคหา เกรงชีวาจะมรณา ด้วยภัยยาแห่งศัตรู” นอกจากนี้ยังต้องอุบาทว์พระยมอีกด้วย จึงสรุปได้ว่าในช่วงที่ดาว 3 ดวงนี้มีองศาไล่เลี่ยใกล้เคียงกันในระหว่างวันที่ 17 ถึง 22 กันยายน ทำให้รัฐบาลต้องตัดสินใจหยุดพัก อาจยุบสภาหรือลาออก แต่หากยังคงอยู่ต่อไปก็หมดความชอบธรรม เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาถึงเดือนนี้ กลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว บริหารงานผิดพลาด แต่ละคนอยู่ใต้อิทธิพลของคนเสื้อแดง จึงทำให้ไร้เสียซึ่งศักดิ์ศรี มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี นอกจากนี้อาจมีคนสำคัญทางการเมืองเสียชีวิต
ในด้านภัยพิบัติ นับได้ว่าเป็นเดือนน่ากลัว เพราะดาวอาทิตย์ยกสู่ภพที่ 6 เป็นอริแก่ดวงเมืองที่นำปัญหาใหญ่มาให้ เช่น เกิดแผ่นดินไหว เพราะมฤตยูเล็ง เกิดอุทกภัย เพราะดาวศุกร์ ธาตุน้ำ เข้ามาในราศีธาตุลม และมีพระราหูธาตุลมร่วมอยู่ด้วย ก่อให้เกิดพายุใหญ่และฝนตกหนักยาวนานติดต่อกัน จนเขื่อนและอ่างเก็บน้ำรับไว้ไม่อยู่ ในเวลาเดียวกัน ดาวพุธ ธาตุน้ำ มาสมทบทับพระราหู ซึ่งเป็นคู่ศัตรูร้ายแรง จนใครก็ยับยั้งพิบัติภัยไว้ไม่อยู่ และดาวอาทิตย์นี้คือผู้นำที่ต้องอยู่ในภาวะแห่งความยุ่งยาก ถูกถลุงถล่มหนักจนอยู่ไม่ได้
หากสถานการณ์เป็นไปตามคาด ด้านเศรษฐกิจก็จะตกต่ำเมื่อถึงภัยมหันต์ในข้อที่ 5 ข้อที่ 6 และข้อที่ 7 ทำให้ฐานะการเงินคลอนแคลน ระส่ำระสาย รายได้หลักจากการส่งออกก็หยุดชะงัก การท่องเที่ยวก็ซบเซา การทำมาหากินของประชาชนประสบความยากลำบาก เต็มไปด้วยความทุกข์ และพึ่งพาใครไม่ได้
สำหรับประเทศที่จะมีภัยพิบัติมากคือ อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ส่วนทางประเทศตะวันตก แถบฝรั่งเศส เยอรมนี จะเกิดแผ่นดินไหวหรือไฟไหม้ครั้งใหญ่ ทางฝั่งทวีปอเมริกาเหนือก็จะมีเหตุการณ์เกี่ยวกับอุบัติเหตุ เช่น เครื่องบินตก มีผู้สูญเสียชีวิตมาก
ตุลาคม
ในปีนี้ดาวอังคารโคจรเป็นปกติ นับว่าโชคดี เพราะหากเกิดพักร-มน-เสริด ในราศีสิงห์ ก็ให้โทษแก่ชาติบ้านเมืองแบบหมดทางแก้ไข แต่ดาวอาทิตย์ที่ให้แสงไปยังภพต่างๆ จรมาในทุสถานภพที่ ๖ เป็นอริลัคน์ ดวงของผู้นำย่อมหมองหม่น อำนาจวาสนาเสื่อมลงไป จนถึงกลางเดือนก็จะยกเข้าสู่ราศีตุล ภพที่ 7 ยิ่งทำให้พบกับปัญหาหนักทั้งเรื่องส่วนตัวและการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะดาวอาทิตย์เป็นนิจ ที่หมายถึงความเสื่อมโทรมไป จนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน เมื่อมากระทบกับดาวเสาร์ พระราหู ซึ่งเป็นดาวคนละขั้ว จึงเป็นเดือนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ดาวศุกร์ในราศีพิจิกเป็นมรณะลัคน์และเป็นประ ทำให้เสถียรภาพทางการเงินการคลังง่อนแง่น หนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้น และจะต้องกู้เงิน ล้วนแล้วแต่เผชิญกับวิกฤติจนเอาตัวไม่รอด ภาคเอกชนและประชาชนส่วนมากขาดสภาพคล่อง รวมถึงเจอผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นช่วงสั้นๆ รัฐบาลอยู่ต่อไปได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับเดือนตุลาคมนี้
สิ่งที่นักโหราศาสตร์หวั่นเกรงว่าบ้านเมืองจะไม่มีความสุขสงบ ก็เพราะอิทธิพลของดาวเสาร์ที่เล็งดวงเมืองทำมุม 180 องศา ซึ่งมีผลต่อความแตกแยกของคนในชาติ รัฐบาลอยู่ได้ไม่นานนับจากวันที่ 4 สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป และเรื่องของภัยธรรมชาติที่รุนแรงเกิด ทั้งแผ่นดินไหวและอุทกภัย ดังนั้นกว่าจะถึงปี พ.ศ.2556 รัฐบาลก็อาจเปลี่ยนไปแล้ว และก็จะเป็นการบันทึกไว้ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกและคนสุดท้าย
อย่าได้อุตริเอาสตรีมาเป็นผู้นำ เพราะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเกิดอาเพศวิปริตหลายเรื่อง เนื่องจากดวงเมืองกำหนดให้ตำแหน่งสำคัญนี้ต้องเป็นบุรุษเพศ เพราะมีดาวอาทิตย์กุมลัคนาในราศีเมษ ที่มีดาวอังคารเป็นตนุลัคน์ ดาว 2 ดวงนี้คือเพศชาย และในภพที่ 10 มีดาวเสาร์เป็นดาวเจ้าเรือน ก็จัดว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นชาย หรือต้องอดทน มีความหนักแน่นและเก่งในการวางแผนงานอย่างรอบคอบ ไม่ผิดพลาด ดังนั้นในทัศนะของโหรจึงถือว่าสตรีเพศต้องห้ามเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อเป็นไปแล้ว เรา-ท่านก็ได้เห็นแล้วว่าเป็นอย่างไรโดยไม่ต้องบรรยายถึงความสามารถว่ามีหรือไม่มี ดังนั้นดาวเสาร์ระห่ำเป็นพินทุบาทว์ ก็น่าจะจัดการให้นายกรัฐมนตรีเป็นชายได้โดยเร็วพลัน ก่อนที่ชาติจะกลายเป็นรัฐล้มเหลวและทวีความอาเพศ อัปมงคลไปทั่ว
สภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวนอย่างหนัก ความหนาวเย็นจะมาถึงเร็วก่อนถึงเวลา และความร้อนก็จะเกิดขึ้นสลับไปมาพร้อมอุบัติภัยที่เหนือความคาดหมาย ไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะเมืองไทย แต่จะเกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้างเกือบทุกประเทศ และอาจมีการจากไปของบุคคลที่เคยมีความสำคัญ มีบทบาทและเป็นต้นตอของปัญหาจนถึง พ.ศ.นี้ เมื่อดาวอังคารจรเข้ามาบีบเบียนหลังลัคนา และดาวเสาร์กับพระราหูเบียนหน้าลัคนา ดาวบาปเคราะห์ทั้ง 3 นี้ล้วนแล้วให้โทษกับชะตาบุคคลและดวงเมือง ไปจนถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน ดาวอังคารจะเป็นดาวฆาตสำหรับคนราศีกันย์
พฤศจิกายน
ในฐานะนักวิเคราะห์ดวงเมือง ก็ต้องขอออกตัวว่า ดวงชะตาบ้านเมืองในปี พ.ศ.2556 ปีมะเส็งนี้ ค่อนข้างทำนายยาก จะเอาให้แน่ชัดก็คงจะไม่ได้ แต่จะไล่เรียงที่มาที่ไป เพราะดาวมาชุมนุมที่ราศีตุลกันตลอดทั้งปี ยืนพื้นด้วยดาวเสาร์จรเป็นพินทุบาทว์ โดยความหมายคือดวงแตก ดวงช้ำ ถามว่าใครช้ำ ไล่ดาวเสาร์ที่มาจากภพศุภะ หรือภพที่ 9 เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับต่างประเทศ ศาสนา การค้นคิดทางวิทยาศาสตร์ ความรู้ระดับสูง นักวิชาการ สถาบันสำคัญของชาติ การใช้สติปัญญา และความสงบร่มเย็นของชาติ ซึ่งทั้งหมดถูกทำลายให้แตกละเอียด เรื่องดีๆ ไม่ปรากฏ มีแต่เรื่องทรยศ และดาวเสาร์ก็ดี พระราหูก็ดี มาจากภพกัมมะหรือลาภะ คือดาวทั้งสองเป็นดาวเจ้าเรือนที่ใช้แทนกันได้
ดังนั้น ความรับผิดชอบในหน้าที่ของฝ่ายบริหาร คือคณะรัฐมนตรี ผู้นำ จึงหย่อนยาน ไร้ประสิทธิภาพ ขาดปัญญา ทำให้ประเทศชาติไม่มีความสุขสงบ การบังคับใช้กฎหมายมีหลายมาตรฐาน เป็นปีที่มีการเล่นพวก เลือกข้างกันมากที่สุด ข้าราชการ ข้าของแผ่นดินไม่มีจิตสำนึก ไม่อินังขังขอบต่อหน้าที่ ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปสู่จุดแห่งความล้มเหลวด้วยอิทธิพลของดาวเสาร์และพระราหูจรเล็งดวงเมือดวงโลกเป็นพินทุบาทว์จร คือร้ายให้มันร้ายไป ความหวัง ความต้องการ เสรีภาพ สิ่งที่ดีที่สุด ย่อมไม่มีอย่างแน่นอนในมะเส็งนี้ ความอุบาทว์กลาดเกลื่อน ดังนั้นเป็นยุคที่ตัวใครตัวมัน และกลับไปอ่านภัย 10 ประการอีกครั้ง ก็จะทำให้เข้าใจได้ว่ามันคือกลียุค รัฐบาลผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
ในด้านอื่นๆ ที่สำคัญพอๆ กับการเมือง คือรายได้และเศรษฐกิจของชาติดูเหมือนดี แต่พอสแกนเข้าไปก็จะพบความล้มเหลวพร้อมหนี้สิน เงินกู้และการใช้งบประมาณอย่างทุจริต เพราะพระราหูก็ดี ดาวศุกร์ก็ดี มาจากภพวินาศ แล้วก็มาชุมนุมวกไปเวียนมาร่วมกับดาวเสาร์และพระราหูจร เป็นภาพเชิงซ้อนให้เห็นว่าตลอดเวลา ไม่ได้มีอะไรใหม่ ไม่มีอะไรที่บ่งชี้ถึงความเจริญก้าวหน้า หรือพูดง่ายๆ ว่า ประเทศไทยและชาวโลกไร้อนาคต จึงอยู่ไปวันๆ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ฝ่ายที่ครองอำนาจก็กอบโกย ฝ่ายรักชาติบ้านเมืองและสถาบันก็แสดงออกกันเต็มที่ เพื่อพิทักษ์ ปกป้อง คะคานอำนาจไว้ ส่วนประชาชนก็ดิ้นรนกันเองเพื่อเอาตัวรอดให้พอมีกินมีใช้ ดาวศุกร์จรเป็นมหาจักร แต่อยู่ในภพศุภะตลอดทั้งเดือน พอทำให้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ได้บ้าง ว่าตลาดการค้าต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นส่งออกหรือนักท่องเที่ยวจะนำรายได้เข้ามามากกว่าปีที่ผ่านไป
สภาพอากาศเลวร้าย แปรปรวน โรคระบาด ทำให้มีการล้มตายไม่น้อย ส่วนภัยธรรมชาติก็เล่นบทร้าย แล้วก็อ่อนแรงลง สลับกันไปอย่างน่าเบื่อ พื้นที่ควรเฝ้าระวังระวังคือภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคอีสานบางส่วน
ธันวาคม
การชุมนุมของดาวกระจายออกไปจากภพที่ 7 แล้วแต่ดาวอาทิตย์ยกสู่ภพที่ 8 หรือเรือนมรณะ รัฐบาลหรือผู้นำจะปิดกั้นไม่ให้สังคมล่วงรู้ถึงความไม่ชอบมาพากล มีการทุจริต มีความเปลี่ยนแปลงจากดีเป็นร้าย และจากร้ายเป็นดี จับตาคำทำนายวันสิ้นโลก 21 ธันวาคม 2012 ที่ไม่ใช่วันสิ้นโลก แต่ประชาชนและประชากรทั้งโลกจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงความคิด มีการปฏิรูปสังคม มีการตกผลึกในพันธสัญญาและร่วมมือกันจัดการกับทรราช เพราะดาวจันทร์จรเข้าเรือนตัวเอง ได้มาตรฐานเกษตร และดาวอังคารเป็นอริลัคน์ทำให้ต้องเผชิญต่อภาระหน้าที่ มีการเคลื่อนไหวไปทั่วทั้งโลก แต่ไม่ใช่การจลาจล ประกอบกับชาติตะวันตกใกล้จะถึงวันคริสต์มาส
สิ่งที่จะได้เห็นคือการเปลี่ยนแปลงจิตใจทัศนคติจากฝูงชนที่หลงผิดจะกลับใจ แต่คนอีกลุ่มหนึ่งจะเปลี่ยนจากการเป็นฝ่ายดีเป็นฝ่ายร้าย หมายถึงยังมีทั้งเทพและมาร แต่กระแสของเทพหรือฝ่ายดีย่อมมีมากกว่า เป็นการสิ้นสุดปีที่ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพราะดาวมฤตยู เนปจูน ทำมุมประชิดกัน จึงมี 2 ฝ่ายชัดเจน ดาวเนปจูนในราศีที่ 10 เป็นภพลาภะของดวงเมืองดวงโลก มาขัดขวางมิให้ความร่วมมือในสังคมเกิดความกลมเกลียว ปรองดอง และดาวนี้ชักจูงให้คนที่เกิดในราศีกุมภ์บังเกิดความคิดที่สวนกระแสแห่งความถูกต้อง ดีงาม ชอบธรรม
ถัดมามีดาวพลูโต ซึ่งเป็นดาวฝ่ายในภพศุภะ ที่ราศีธนูมีดาวพฤหัสบดี เทพแห่งคุณธรรม เป็นดาวเจ้าเรือน จึงมีกำลังและพลังฉุดรั้งให้คนหันหน้าเข้าสู่ระบบคุณความดี มีการพัฒนาให้โลกเกิดความสุขสงบได้ 2+1+1+2+2+0+2+2 = 11 (วันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 ที่ชาวมายันกล่าวไว้ว่าจะเริ่มตั้งแต่วัน เดือน ปี นี้เป็นต้นไป) เป็นเลขที่ก่อให้เกิดการทำลายล้างได้ ถ้าเป็นคนก็เหมือนกับติดคุก ถูกขังลืม แต่ถ้าเป็นภาพรวมของโลกและสังคม ก็คือจุดเปลี่ยนผ่านจากความเลวร้าย เพื่อไปสู่ความสงบสุข รุ่งเรืองของประเทศชาติ แม้จะต้องใช้เวลารอคอยจนกว่าจะถึงปี พ.ศ.2560 (ค.ศ.2017)
ดังนั้นการล้างโลก ล้างชาติให้สะอาด จึงเป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคนที่ต้องร่วมมือกันทำไปเรื่อยๆ ตั้งแต่บัดนี้ และแล้วความรุ่งโรจน์โชติช่วงของคนไทยและชาวโลกก็จะอุบัติขึ้น พร้อมกับความเชื่อในเรื่องพระจักรพรรดิ พระศรีอาริย์ ตามที่ได้สาธยายมาแล้วในตอนต้น
ขออำนาจแห่งบุญ ความดีที่ผู้เขียนได้ทำไว้กับประเทศชาติ ดลบันดาลให้ทุกท่านมีทางรอดพ้นภัย มีชีวิต มีลมหายเพื่อรอดูโลกในปี พ.ศ.2561 หรือ ค.ศ.2018 ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย และศีล สมาธิ ปัญญา เป็นปัจจัยให้เกิดความสวัสดีมีโชคชัย ชนะใจตนเองให้ได้ และมีพลังพิชิตความเลวร้ายทั้งปวงที่อาจเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2556 สำหรับผู้อุดหนุนหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ที่ไม่ยอมเป็นขี้ข้าให้ใครมาบงการ.
ขออนุญาต บันทึกไว้ เพื่ออ่านง่ายๆ
ตอบลบ